INSDIE OUT
สรุปเรื่อง
เมื่อ "ไรลีย์" เด็กหญิงวัย 11 ปี
ผู้เติบโตขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลางต้องย้ายมายังซานฟรานซิสโกตามพ่อของเธอที่ได้รับการเสนองานใหม่เช่นเดียวกับเราทุกคน
ไรลีย์ถูกควบคุมด้วยอารมณ์ต่างๆเธอไม่ว่าจะเป็น
- ความสุข (Joy) ตัวแทนแห่งความสุข
ผู้มีมาพร้อมร้อยยิ้มกว้างและเรื่องสนุกสนาน
- ความโกรธ (Anger) ตัวแทนของความรู้สึกโกรธ ผู้มาพร้อมกับไฟบนหัวยามเมื่อรู้สึกโมโหจัด เขาคือผู้ที่พร้อมจะถูกจุดระเบิดอยู่ตลอดเวลา
- ความกลัว (Fear) ตัวแทนแห่งความรู้สึกกลัว
ผู้ที่มาพร้อมความวิตกกังวลบนหางคิ้วซึ่งตกจนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว
- ความน่ารังเกียจ(Disgust) ตัวแทนของความรู้สึกรังเกียจ อารมณ์ที่จะแสดงออกถึงความไม่พอใจในทุกสิ่งทุกอย่าง
- ความเศร้า (Sadness) ตัวแทนของความรู้สึกโศกเศร้า
ความรู้สึกที่มาพร้อมความมัวหมองตลอดเวลา
อารมณ์ทั้งหมดอาศัยอยู่ในศูนย์บัญชาการใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์ควมคุมส่วนกลางภายในจิตใจของไรลีย์
ที่ที่พวกเขาคอยช่วยแนะนำเธอให้ผ่านชีวิตในแต่ละวันได้ เมื่อไรลีย์และเหล่าอารมณ์ของเธอต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในซานฟรานซิสโก
ความโกลาหลวุ่นวายก็คืบคลานมายังศูนย์บัญชาการใหญ่ แม้ ความสุข
ซึ่งเป็นอารมณ์หลักและสำคัญที่สุดของไรลีย์พยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ทว่าเหล่าอารมณ์ทั้งหลายกลับขัดแย้งกันเองในการใช้ชีวิตท่ามกลางเมือง
สิ่งที่ได้จากการดูหนัง
1. ทำให้รู้จักกับกระบวนการทำงานภายในสมอง
ทางด้านการควบคุมอารมณ์ในรูปแบบต่างๆ
2. ได้ความรู้เกี่ยวกับความทรงจำระยะสั้น
และความทรงจำระยะยาว
3. ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน
พร้อมทั้งได้รับความรู้จากการดูหนัง
4. เป็นการหาทางที่จะทำให้อารมณ์ในทุกๆด้านมีสมดุล
ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ
และหาทางที่
ใช้ประโยชน์จากแต่ละอารมณ์ในแต่สถานการณ์ที่เหมาะสม
5. อารมณ์สามารถทำให้คนเกิดแรงจูงใจในการทำสิ่งต่างๆ
6. ทำให้ตระหนักถึงสิ่งที่รับรู้
การใช้อารมณ์ และกระบวนการในการทำงาน
7. ถ้าเราไม่จำจด ไปนานๆความทรงจำนั้นก็จะค่อยๆ
เลือนหายไป
8. จินตนาการในวัยเด็ก
ถ้าเราลืมมันไป ความทรงจำก็จะหายไปด้วย
ความเกี่ยวข้องกับทฤษฎี
1. ทฤษฎีพัฒนาการเชาว์ปัญญาของเพียเจต์
เพียเจต์เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
โดยธรรมชาติมนุษย์จะเป็นผู้พร้อมที่จะมีกริยากรรม
เช่นกับไรลีย์ เมื่อเขาลืมตาดูโลกขึ้นมาจะเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอก
ในภายในไรลีย์จะมีระบบจัดเก็บรวบรวมกระบวนการต่างๆอย่างต่อเนื่อง
และมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับภายนอก มีทั้งการซึมซาบประสบการณ์และการตีความต่างๆ
2. ทฤษฎีการเรียนรู้โดยการค้นพบของบรูเนอร์
ไรลีย์จะแสดงพัฒนาการทางสมองด้วยการกระทำ
และดำเนินต่อไปเรื่อยๆตลอดชีวิต เรียกว่า Enactive Mode เป็นวิธีการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
โดยการจับต้อง เช่น ผลัก ดึง จับ การเล่นกีฬาของไรลีย์
นอกจากใช้ประสาทสัมผัสแล้วเด็กยังสามารถถ่ายทอดด้วยภาพในใจของเค้า เมื่อไรลีย์สามารถที่จะสร้างจินตนาการได้
เด็กก็สามารถรับรู้สิ่งต่างในโลกได้ด้วยการใช้ Iconic Mode
3. ทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความหมายของอองซูเบล
ไรลีย์ ที่เคยเล่นกีฬามาแล้วจะสามารถจำวิธีการเล่นได้โดยไม่ต้องจดจำ
เป็นการเชื่อมโยงสิ่งที่เป็นความรู้ใหม่กับหลักเกณฑ์เดิมที่เคยสร้างมาแล้ว
4. ทฤษฎีประมวลสารสนเทศ
ไรลีย์ มีการทำงานกระบวนการต่างๆในการประมวลสารสนเทศ
เช่น ความใส่ใจ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรู้จักคิดของตนเอง (Metacognition)
......................................................................................................................
แล้วกระบวนการคิดของต้น คืออะไรครับ
ตอบลบการที่เด็กสามารถเรียนรู้ ในขณะที่เจริญเติบโตขึ้น เป็นการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ความใส่ใจ ในเรื่องต่างๆ จากการเรียกความรู้จากความทรงจำระยะยาวมาใช้ ค่ะ
ลบการที่เด็กสามารถเรียนรู้ ในขณะที่เจริญเติบโตขึ้น เป็นการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ความใส่ใจ ในเรื่องต่างๆ จากการเรียกความรู้จากความทรงจำระยะยาวมาใช้ ค่ะ
ลบตน
ตอบลบ